จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ แถลงผลการจับกุมผู้ต้อง บาคาร่าออนไลน์ หาจำหน่ายหน้ากากอนามัยและเวชภัณฑ์ตั้งแต่วันที่ 4 กุมภาพันธ์-วันที่ 8 เมษายน หลังมีประกาศให้หน้ากากอนามัยเป็นสินค้าควบคุม เมื่อวันที่ 9 เมษายน โดยมีคดีสำคัญที่เกี่ยวข้อง 4 เรื่อง หนึ่งในนั้นคือ คดีนำเข้าข้อมูลเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ที่มีผู้ใช้เพจเฟซบุ๊กชื่อ แหม่มโพธิ์ดำ นำข้อมูลเท็จของเสี่ยบอยมาแชร์ต่อ ซึ่งเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เรื่องการส่งต่อข้อมูลเท็จ โดยตำรวจกำลังสืบหาตัว
ต่อมาทางด้านเพจ แหม่มโพธิ์ดำ ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กว่า
“งานเข้ากูเฉยจ้า เห็นข่าวไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา บอกว่าวันนี้พลตำรวจตรีปัญญา ปิ่นสุข รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ระบุว่า ตำรวจกำลังเร่งสืบหาตัวตนเจ้าของเพจเฟซบุ๊ก “แหม่มโพธิ์ดำ” หลังแชร์คลิปการไลฟ์ขายหน้ากากอนามัย 200 ล้านชิ้น ของเสี่ยบอย ซึ่งถือว่าเข้าข่ายความผิดนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ!!!! (กูไปแชร์มันตอนไหน มีแต่แคปสิ่งที่มันโพสต์มาลงในความคิดเห็น สิ่งที่ตำรวจพูดนี่เข้าข่ายเฟคนิวส์นะ)
กูออกมาช่วยสังคมตามหาหน้ากาก เพราะโรงพยาบาลทั่วประเทศรวมถึงประเทศไทย ไม่มีหน้ากากใช้ ไปไหนไม่รู้ หาไม่เจอ พอไอ้บอยโพสต์หลักฐาน ทั้งคลิปอวดหน้ากาก ทั้งโม้เย็บม้า หน้ากากกองเป็นลังๆ บัญชีต่างๆ เต็มไปหมด โพสต์โยงใยไปถึงคนในรัฐบาล กูก็นำมาลง เพื่อผลประโยชน์ของภาคประชาชน รัฐก็มาบิดๆให้ข้อมูลสื่อหาว่ากูได้ข้อมูลมาจากฝั่งล้มล้างรัฐบาล คือมึงเป็นบ้าเหรอ มีหลักฐานอะไรบ้างที่กูเป็นคนแบบนั้น ทำเพจมาไม่เคยการเมืองสักครั้งมีแค่เรื่องหน้ากาก เพราะมันเดือดร้อนกันทั้งแผ่นดิน ส่วนไอ้บอยมันจะมีหน้ากากกี่อัน มันคือหน้าที่ตำรวจไปสืบหา ไม่ใช่หาไม่เจอ ทั้งที่คลิปทนโท่ กลายเป็นคนแจ้งผิด
พอมีลูกเพจถูกพันธ์ยศโกง กูก็นำมาลงเพจ ว่ามีสายข่าวแจ้งว่าพรรคภราดรภาพมีเอี่ยวนะ เอ๊ะอะไรยังไงไปตรวจสอบกันสิ กูคนเปิดชัดๆ ใครก็เห็น จนตอนนี้ตำรวจตามจับมันได้ ไม่ให้เครดิตกูไม่ว่าอะไร กูช่วยสังคมไม่หวังเอาหน้า ขอให้เป็นผลดีกับประเทศชาติจบ หน้ากากที่ผลิตในประเทศ จะได้ถูกแจกจ่ายไปให้เจ้าหน้าที่พยาบาลกันสักที
ประเทศไหนเขาก็ช่วยคุ้มครองพลเมืองดี คนที่หาหลักฐาน เพื่อตามจับคนร้าย แต่ประเทศไทยไอเลิฟยู จะล่อกบาลกูเสียแล้ว แถลงการณ์กันยิ่งใหญ่เหมือนกูคือผู้ก่อการร้าย นี่คือการตอบแทนความเสี่ยงกูเหรอ คือจะให้กูเป็นคน- ให้ได้ โคตรผิดหวัง จะมาตามหากูทำไม ไปตามหาคนที่โกงชาติ โกงแผ่นดิน อย่าเอากูไปอยู่ตรงกลางของเกมการเมืองอันสกปรกของพวกมึงเลย”
สตช. แถลงปมกักตุนหน้ากากอนามัย หาตัวแหม่มโพธิ์ดำ ผิดพ.ร.บ. คอมฯ
วันที่ 9 เมษายน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะโฆษก ตร.พร้อมผู้บังคับบัญชาตำรวจแต่ละหน่วยงานร่วมแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาจำหน่ายหน้ากากอนามัยและเวชภัณฑ์ตั้งแต่วันที่ 4 กุมภาพันธ์-วันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมา หลังมีประกาศให้หน้ากากอนามัยเป็นสินค้าควบคุม โดยจับกุมผู้กระทำผิด 328 ราย ยึดของกลางหน้ากากอนามัย 2,587,578 ชิ้น เครื่องวัดอุณหภูมิ 2,764 เครื่อง เจลแอลกอฮอล์ 80,500 ลิตร ชุดเครื่องตรวจไวรัสโควิด 55,048 ชิ้น รวมมูลค่าทั้งหมด 71,959,665 บาท
พล.ต.ต.ปัญญา ปิ่นสุข รอง ผบช.ก.เปิดเผยว่า หลังมีประกาศเป็นสินค้าควบคุม ผู้ผลิตรายต่างๆ ต้องรายงานปริมาณจำนวนการผลิต การนำเข้า-ส่งออกต่อกรมการค้าภายใน ซึ่งตำรวจประสานข้อมูลกรมการค้าภายใน และกรมศุลากร หากพบว่าผู้ใดไม่ปฏิบัติตาม ก็จะดำเนินการตามกฎหมาย โดยมีคดีสำคัญที่เกี่ยวข้อง 4 เรื่องคือ
1.คดีจับกุมนายศรสุวีร์ ภู่รวีรัศวัชรี หรือ เสี่ยบอยมิดไนท์ ที่โพสต์เฟซบุ๊กอ้างว่ามีหน้ากากอนามัย 200 ล้านชิ้น ก่อนขยายผลจับกุม นายพันธ์ยศ อัครอมรพงศ์ พร้อมของกลางหน้ากากอนามัย 2,826 ชิ้น
2.คดีนำเข้าข้อมูลเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ที่มีผู้ใช้เพจเฟซบุ๊กชื่อแหม่มโพธิ์ดำ นำข้อมูลเท็จของเสี่ยบอยมาแชร์ต่อ ซึ่งเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เรื่องการส่งต่อข้อมูลเท็จ โดยตำรวจกำลังสืบหาตัว
3.คดีที่อดีตอธิบดีกรมการค้าภายในแจ้งความต่อโฆษกกรมศุลกากรกรณีแถลงข่าวการส่งออกหน้ากากอนามัย ล่าสุดผู้ร้องทุกข์ได้ถอนแจ้งความเพราะถือเป็นความผิดส่วนตัว และสำนวนถูกส่งให้อัยการเรียบร้อย
4.คดีที่ผู้เสียหายแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจกองปราบปรามการคุ้มครองผู้บริโภค(บก.ปคบ.) ว่าสั่งหน้ากากอนามัยกับนายอานนทวัฒน์ วรเมธชยางกูร ซึ่งตำรวจได้จับกุมและให้ประกันตัวไปแล้ว
การจับกุมนายพันธ์ยศ ซึ่งมีหลักฐานเชื่อมโยงพบว่าเป็นตัวการขายหน้ากากอนามัยรายใหญ่ของประเทศ จากพฤติกรรมพบว่าเป็นผู้สั่งนำเข้ามาเป็นส่วนใหญ่ ไม่ได้ผลิตเอง แต่จะผลิตกล่องบรรจุภัณฑ์และสร้างแบรนด์สินค้าเพื่อสร้างคุณค่า ก็ถือเป็นความผิดเกี่ยวข้องกับการผลิต ทั้งนี้นายพันธุ์ยศ ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ล่าสุดได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวเนื่องจากไม่มีพฤติกรรมหลบหนี แต่หากพบความผิดอื่นก็จะแจ้งข้อหาที่เกี่ยวข้อง แยกเป็นต่างกรรมต่างวาระ อย่างไรก็ตาม ขบวนการกักตุนอนามัยที่ถูกจับกุมครั้งนี้ นับเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดความขาดแคลนหน้ากากอนามัยทั่วประเทศ จนมีการกักตุนและมีราคาสูง นอกจากนี้ ยังพบว่ามีคนเกี่ยวข้องกับขบวนการขายหน้ากากนี้อีกจำนวนหนึ่ง ยังไม่พบว่ามีนักการเมือง แต่ในอนาคตก็ไม่แน่ ซึ่ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.สั่งให้เอาผิดทั้งหมดไม่ยกเว้น บาคาร่าออนไลน์